ต้องยอมรับว่า สาวญี่ปุ่น ขึ้นชื่อเรื่องความสวยใส โดยเฉพาะเรื่องผิวที่ดูออร่าเปล่งปลั่งสุขภาพดี ส่วนหนึ่งนั้นมาจากการดูแลสูขภาพทั้งในเรื่องอาหารการกิน กิจกรรม วิถีการดำเนินชีวิต และสาวไทยอย่างเราๆ เองก็อยากมีผิวสวยแบบนั้นเหมือนกัน แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้จริงมั้ย?
ดื่มน้ำอุ่นประมาณ 4 แก้วหลังจากตื่นนอนในตอนเช้าเพื่อเป็นการดีท็อกซ์ร่างกาย
ดื่มชาเขียวอุ่นๆ เป็นประจำเพื่อช่วยการเผาผลาญไขมันส่วนเกินลดคอเรสเตอรอล และช่วยขับสารพิษที่สะสมอยู่ในร่างกาย และในผิวให้หมดไปด้วย (แต่ถ้าเป็นชาเขียวใส่นมใส่ครีม อันนี้นอกจากไม่ช่วยเผาผลาญไขมัน ยังเพิ่มคอเรสเตอรอลอีกด้วยนะ)
แสงแดดยามสายถึงบ่ายแก่ๆ คือ ศัตรูตัวฉกาจของผิว เพราะมีรังสียูวี ที่มีส่วนกระตุ้นในให้เกิดเม็ดสี ทำให้ผิวหมองคล้ำได้
สาวญี่ปุ่นจะใส่ใจเรื่องการเช็ดเครื่องสำอางมากๆต้องทำความสะอาดให้หมดจด ไม่มีสิ่งตกค้างบนใบหน้าต่อให้จะต้องแต่งหน้ามากแค่ไหนก็ตามรวมถึงเรื่องการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าต่างๆหลากหลายขั้นตอน เพื่อขจัดความหมองคล้ำและชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
สาวญี่ปุ่นส่วนมากจะนิยมขัดผิวสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้งเพื่อให้ผิวสะอาดสดใส เปล่งปลั่งรวมถึงยังช่วยกระตุ้นระบบหมุนเวียนภายในให้ทำงานได้ดีขึ้นด้วย
นอนแช่น้ำอุ่นวันละ 10 นาทีหลังจากทำงานเหนื่อยล้ามาทั้งวันการได้แช่น้ำอุ่นถือเป็นการผ่อนคลายความเมื่อยล้าได้เป็นอย่างดีรูขุมขนจะเปิดกว้างพร้อมขับของเสียสิ่งสกปรกต่างๆ ออกมากับเหงื่อและยังช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตทำให้ผิวพรรณดูสดใสเปล่งปลั่ง
สาวญี่ปุ่นจะ“ไม่ทาครีมบำรุงใดๆ บนหน้าเลย”พอตื่นเช้าให้ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าวิธีนี้เหมือนเป็นการให้ผิวได้พักผ่อนจากครีมบำรุงต่างๆ และปล่อยให้ผิวได้ฟื้นฟูปรับสภาพแบบธรรมชาติ
ผิวสวยจากภายในด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เน้นการรับประทานผัก ผลไม้ และมีรสไม่จัดเช่น เนื้อปลา สาหร่ายทะเล อาหารที่ทำจากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้
บางทีสารอาหารที่เรารับในแต่ละวันอาจมีไม่เพียงพอ ต้องเสริมด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เช่น วิตามินซี ธาติเหล็ก น้ำมันตับปลา ฯลฯ เพื่อเสริมสารอาหารให้กับร่างกาย เพื่อบำรุงร่างกายจากภายในให้สุขภาพดีเปล่งประกายสู่ผิวภายนอก